.......ตามทฤษฎีแบบไทย เหตุการณ์ตามโหราศาสตร์จะเกิดจากอิทธิพลของ ปัจจัย 3 พวก คือ หนึ่ง ธาตุจากดวงอาทิตย์ สอง วงรอบเวลาในจักรวาล และสาม การหมุนและแกว่งของโลก เข้ารับธาตุจากจักรวาล
.......หนึ่งธาตุจากดวงอาทิตย์
เป็นเรื่องยาวมาก เรียน สองปีไม่จบ ดวงอาทิตย์ส่งพลังงานออกมา สองทาง ทางหนึ่งกระทบดาวในจักรวาล แล้วกลั่นกรองสะท้อนธาตุกลับมา โลกรับไว้ แล้วเข้าสู่ดวงชะตา อีกทางหนึ่ง กระทบโลกโดยตรง โลกก็กลั่นกรอง แล้วสะท้อนธาตุสู่ดาวอื่น แต่ก็ดูดกลืนธาตุไว้ที่ดวงชะตาเช่นกัน
ปฏิกริยาระหว่างนั้น จะเหมือนวิชาเคมี คือ ผสมกัน ทำปฏิกริยากัน มีผลผลิตตามออกมาอีกเยอะแยะ แต่ที่สำคัญธาตุเหล่านี้มีอายุธาตุของมัน เหมือนธาตุกัมมันตรังสี จะค่อยๆแปรเปลี่ยน และส่งกระแสธาตุออกมาทำปฏิกริยากัน
ทำให้เกิดโหราศาสตร์ระบบธาตุขึ้นสองกลุ่ม
กลุ่มหนึ่งจับเอาธาตุที่ดวงชะตาได้รับจากจักรวาล และปรากฏในดวงชะตา เพราะถือว่าเป็นการแสดงเรื่องหลักของชีวิต เช่น โหราศาสตร์ไทยสายที่พวกเราเรียนเป็นส่วนใหญ่นี้
ส่วนอีกกลุ่มหนึ่ง ติดตามดูธาตุที่แปรเปลี่ยนไปด้วย เช่น วิชาอสีติธาตุวิภังค์ ตามดูการเปลี่ยนของธาตุในกายมนุษย์ เพื่อรักษาโรค หรือวิชา สุริยโชติรัตน์ ตามดูธาตุที่ก่อเกิดเหตุการณ์ตามดวงชะตา หรือ วิชา วีสตรี ที่ใช้ธาตุส่วนสะท้อนจากดวงจันทร์
บางกลุ่มก็ใช้ดาว 7 ดวง บางกลุ่มพัฒนามาใช้ 8 ดวง หรือ 10 ดวง ก็ตามแต่ เป็นต้น
แต่ทุกกลุ่ม ก็อาศัยราศีจักรที่แบ่งตามระบบธาตุ คือ ที่ถูกเรียกว่า นิรายนะ คือจักรราศีคงที่ เหมือนเล่นบาสเก็ตบอล ก็เล่นในสนามที่ตีเส้นแบบบาสเก็ตบอลนั่นแหละ นี่ว่าอย่างย่อสุดๆแล้ว
........สองวงรอบเวลาในจักรวาล
แบ่งเป็นสองพวก พวกแรก เกิดจากการเคลื่อนที่ของดวงดาวและโลก รอบดวงอาทิตย์
เกิดเป็นวงรอบ 3 ชนิด คือ
หนึ่ง......วงรอบของอาทิตย์รอบโลก (โดยภาพจากโลก)
สอง.....ดวงจันทร์หมุนรอบโลก
สาม....โลกหมุนรอบตัวเอง นี่คือ ปี เดือนจันทรคติ และวัน
วงรอบเวลาเหล่านี้มีอิทธิพลในการคลี่คลายเหตุการณ์ “ตามวงรอบเวลา” เป็นต้นตอของโหราศาสตร์กลุ่มที่ใช้วันเดือนปี เลข 7 ตัว เลข 12 ตัวทั้งหลาย เป็นต้น
พวกที่สอง ใช้วงรอบของดวงดาวและปัจจัย รอบโลก (โดยภาพจากโลก) มีอิทธิพลในการคลี่คลายของเหตุการณ์เช่นกัน เป็นต้นตอของโหราศาสตร์กลุ่มที่ใช้ ลัคนาจร กาลจักร ชันษาจร และปัจจัยบนท้องฟ้าโคจร และปัจจัยเหล่านี้ยังสัมพันธ์กัน เกิดจุดอิทธิพลท้องฟ้าอีกมาก แต่ไม่ได้หมายความว่าทุกวิชาเหมือนๆกัน เพราะอธิบายสั้นๆได้ไม่หมดที่นี้
......สามการหมุนและแกว่งของโลก เข้ารับธาตุจากจักรวาล
ด้วยเหตุที่โลกหมุนไปรับแสงอาทิตย์และธาตุจากดวงดาวต่างๆ ซึ่งทำให้บังเกิดดวงชะตา และลัคนาขึ้นจำนวนมาก สามารถดูเหตุการณ์ และธาตุในดวงชะตาได้ กลุ่มนี้ โบราณเรียกกันหลายชื่อ ตามวิชาที่ใช้ แต่หมอดูรุ่นเก่ามักเรียกรวมๆว่า วิชา ดวงโลกหมุน ซึ่งมีวิชาในกลุ่มนี้ไม่น้อยเช่นกัน และแตกต่างกันอยู่มากมาย
...........จริงๆไม่อยากอธิบายเรื่องแบบนี้เลย เพราะอธิบายลงรายละเอียดไม่ได้ อ่านแล้วก็ไม่ค่อยจะถูกทุกเรื่อง และการแบ่งกลุ่มก็ไม่ได้หมายความว่า เป็นไปตามนั้น เพราะเทคนิคทางโหราศาสตร์ก็ใช้ปะปนกันไปหมด ไม่มีใครถือเคร่งบังคับใช้หลักวิชาเดียว และนี่ว่าแบบไทยแท้ ยังไม่ได้กล่าวถึงพวกที่ประยุกต์มาเลย พูดมากไป เดี๋ยวจะโดนขว้างวิกเอาอีก จึงอยากให้เข้าใจพอสังเขปเท่านั้น อย่าไปอ้างทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกเข้าก็แล้วกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น