วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ลำดับก่อนหลัง น้ำหนักของเรื่อง

วิชาโหราศาสตร์ก็คล้ายๆกับวิทยาศาสตร์ ที่มีทั้งอุตุนิยมวิทยา สมุทรวิทยา เคมี ฟิสิกส์ ชีววิทยาอะไรแบบนั้น ที่กล่าวถึงเฉพาะเรื่องเป็นหลักใหญ่ๆ ส่วนจะไปเกี่ยวข้องกับอะไรบ้างนั้น อาจจะมีเป็นส่วนปลีกย่อย

.........วิชาต่างๆก็เหมือนกัน อย่างกาลโยค หรือ ฤกษ์ ก็เป็นเรื่องที่ดูในระดับสูงจะดีกว่า อย่างกาลโยคบางวันเป็นอุบาทว์ โลกาวินาสน์ ความหมายอยู่ในวงกว้างทั้งปี 

หรือคนเกิดเพชฌฆาตฤกษ์ โจโรฤกษ์ ก็ไม่จำเป็นต้องจิตใจเหี้ยมหาญ วิตกทุกข์ร้อน กลัวจะไปเป็นโจร เพราะเป็นผลทางด้านนิสัยใจคอบ้าง กว้างๆ หรืออยู่ในระดับจิตใต้สำนึก แต่การดำรงชีวิตของเราจะขึ้นอยู่กับสิ่งแวดล้อม เรื่องเรือน เรื่องดาว มุมดาว อะไรที่มันส่งอิทธิพลแรงกว่า มีผลต่อนิสัยของเราเป็นรูปธรรมใกล้ชิด ให้เห็นชัดกว่า

.........หลักวิชาประเภทที่มีเงื่อนไข ก็อย่างเช่น ดาวพวกที่เป็นเกณฑ์ อุดมเกณฑ์ พินทุบาทว์อะไรต่างๆ ดาวพวกนี้แสดงวาสนาบารมีดีขึ้น หรือเลวลง เมื่อถึงเวลาเท่านั้น 

คำว่าวาสนาบารมีหมายความว่า เขามีโอกาสเปิดให้มากกว่าคนอื่น 

ไม่ใช่ดาวเป็นองคเกณฑ์แล้วเอามาทายชนิดที่ดาวจร ดาวเดิมทำอะไรไม่ได้ เพราะไม่ได้เกี่ยวกับดาวจะดีเลิศประเสริฐศรีตลอดไป แต่เป็นเรื่องโดยรวมที่ส่งเสริม หรือ บั่นทอนเจ้าชะตาโดยตรงเมื่อมีจังหวะนั่นแหละ

..........บางเรื่องที่เป็นเรื่องก่อนหลัง ก็เกือบคล้ายกัน คือเขาจะเกิดเรื่องเมื่อถึงเวลา บางคนดาวแสดงความลำบาก ก็เพราะตอนเป็นเด็กเขายากจนอยู่ ต่อมาชะตาเขาดีเป็นเศรษฐีแล้ว ไม่มีหวนกลับไปทุกข์ยากอีก ก็ยังไปทายดาวเป็นอับปรีย์กาลีอยู่นั่นเอง ไม่ยอมเลิก ทำให้เราสับสน ทำนายดวงปัจจุบันไม่ถูก

..........เราลองคิดง่ายๆว่าอะไรควรจะมีผลมากน้อย ดูจากดวงชะตานั้นก็ได้ อย่างเช่น ลัคนาราศีหนึ่งกว้าง คนเกิดราศีหนึ่งๆมีตั้ง 1000 ล้านคน (สมมุติ) 

ดังนั้นหากดาวดวงหนึ่งๆ อยู่นานหลายปี จะมีอิทธิพลต่อบุคคลให้เหมือนๆกันได้อย่างไร 

ดวงชะตาที่เราดูเรื่องลัคนา เรือน เจ้าเรือน และดาว มุมดาว ช่วยชี้บ่งรายละเอียดเฉพาะบุคคลเฉพาะเจาะจงลงไป ก็ยังทายได้ไม่ค่อยจะชัด ถูกได้ครึ่งหนึ่งก็นับว่าบุญหนักหนาแล้ว เพราะมันเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อม และการกระทำของเจ้าชะตา การตัดสินใจจะทำอะไร ไม่ทำอะไร จะเลือกเดินทางไหน กรรมเก่ากรรมใหม่ อีกตั้งหลายอย่าง 

ดังนั้น อะไรที่มันกว้างมากไป ก็อย่าเพิ่งไปดูมัน จะทำให้เราทำนายได้ดีขึ้น เอาไว้เก่งกล้าชำนาญแล้ว ค่อยไปพลิกดูเก็บเป็นลูกเล่นภายหลังจะดีกว่า

..........พึงระวังไว้ว่า ผมไม่ได้บอกว่าเรี่องที่ไม่ควรเอามาคิดนั้น ไม่ใช่เรื่องสำคัญ 

อันที่จริงเรื่องต่างๆที่กล่าวมาเป็นเรื่องสำคัญอย่างเอกอุทั้งนั้น แต่มันสำคัญเมื่อเรากำลังใช้อยู่เฉพาะเจาะจง ไม่ใช่สำคัญไปทุกที่ เหมือนหมอผ่าตัดหัวใจ มีความสำคัญต่อชีวิตคน เป็นพระเอกขณะกำลังผ่าตัด แต่พอไปดูดนตรี จะไปอ้างว่าฉันมีความสำคัญต่อชีวิตคนทุกคนนั้นไม่ถูก 

เราทายยาก ก็เพราะเราไม่รู้น้ำหนักของเรื่องว่า อะไรหนัก อะไรเบา ดังนั้น ถ้าเรายังไม่ชำนาญพอ หากความหมายอะไรขัดกัน หลักเบื้องต้นคือต้องตัดอันที่มีอิทธิพลเบาออกทิ้งไปก่อน หรือลดความหมายลงให้เป็นส่วนประกอบเล็กๆน้อยๆเท่านั้น เราก็จะพบว่าทำนายได้ดีขึ้น

...........เรื่องบางเรื่องแม้จะมีผลลงละเอียดมาได้ในบุคคล แต่เป็นเฉพาะบางคนไม่ใช่ทุกคน ถ้าเราพะวงจะใช้ทุกวิชามาทำนาย เพราะเกรงว่าจะมีผลต่อดวงบุคคล ก็จะทำให้เรายิ่งสับสน เพราะจำนวนคนที่มีผลจริงๆจะมีน้อย และเกิดจากเงื่อนไขเยอะแยะ ที่ผมเขียนนี้มุ่งบอกคนที่เรียนใหม่ๆมากกว่า ส่วนคนที่เก่งแล้วคงไม่ต้องบอก

ไม่มีความคิดเห็น: