วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

ลัคนา

เล่าเรื่องพื้นฐานที่เริ่มจะเข้าใจยากมาหลายตอนแล้ว     ว่าจะเล่าต่อ   แต่มาพิจารณาจากคำถามของหลายคน  ยังอยู่ที่เริ่มต้นนับหนึ่งอยู่เลย    เช่น  การวางลัคนา   การเริ่มเรียนวิชาโหราศาสตร์   ดังนั้น   วันนี้  จะเล่าถึงความคิด   ที่เป็นพื้นฐานหลักโหราศาสตร์ไทยบางอย่างเรื่อง “การวางลัคนา”    ทั้งผู้อ่านระดับเริ่มเรียน  และระดับแก่วัดแล้ว  จะได้ไม่เสียเวลาอ่านทั้งสองกลุ่ม

         ความรู้เรื่องลัคนา   หากจะให้เข้าใจซึ้งจริงๆ    เราต้องเรียนโหราศาสตร์ให้จบก่อน  แล้วกลับมาเรียนลัคนากันใหม่   ดังนั้น  จะเขียนเฉพาะเรื่องที่ช่วยให้เข้าใจเบื้องต้นโดยสังเขปเท่านั้น   ลองดูว่า  ถ้าอธิบายเรื่องที่ง่ายที่สุดนี้  จะพอเข้าใจได้ไหม      มีคนเข้าใจเรื่องลัคนากันผิดมากจนแก้ไขอะไรยาก    

ลัคนา  นั้นจริงๆแล้ว  “คืออะไร”   หรือ “เป็นอะไร”   เป็นเรื่องที่อาจเข้าใจยากมาก    พูดสั้นๆไม่ได้   แต่จะง่ายกว่า  หากจะรู้ว่า  “ลัคนาอยู่ตรงไหน” 

......นักเรียนและนักโหราศาสตร์ส่วนใหญ่รู้วิธีวางลัคนากันอยู่ทั่วไปแล้ว   บ้างก็ใช้แผ่นหมุน   บ้างก็ใช้อันโตนาทีคำนวณจากเวลา   บ้างก็ใช้ตารางเวลาจากนักษัตร     แต่จะมีใครรู้หรือไม่ว่า ลัคนากำเนิดของคนเรา “ทางโหราศาสตร์” อยู่ตรงไหน

.......อ่านแล้วคงงง........แล้วมันไม่เหมือนกันหรือ

          ลัคนากำเนิดของเราทางโหราศาสตร์ “ไม่เหมือน”  ลัคนาที่ได้จากการคำนวณหรอกครับ   อ่านดีๆ  อย่าเพิ่งสับสนไป    ลองอ่านตามความคิด ไปก่อน    

ตอนคนเราเกิดมา   คุณรู้อยู่แล้วใช่ไหมว่า   กว่าเราจะหลุดจากท้องแม่ได้  กินเวลา ตั้งแต่  5  นาทีจนถึง  ครึ่งชั่วโมงก็มี    บางคนโผล่หัวออกมาดุ้กดิ้ก   แต่ติดที่หัวไหล่   คุณหมอ หรือหมอตำแย  ต้องช่วยลากช่วยดึง  หรือเอา  ก้ามปูช่วยคีบหนีบหัวดึงออกมา  หรือ กรีดปากช่องคลอดเพิ่มเติม  กว่าจะหลุด  มินั้นหากไม่กลับหัวลง  ก็ต้องคลำจับท้องหมุนเด็กเอาหัวลง  หรือหากนานเกินควรก็ต้องผ่าออก  กินเวลาอาจถึง   ร่วมชั่วโมงก็ได้      ออกมาหายใจเองแล้ว  ก็ยังต้องตัดสายสะดืออีกนิดหน่อย  ใส่ยา  ล้างตัว  พามานอน   แล้วเวลาตกฟากที่  คุณแม่  คุณพ่อ  คุณยาย  นางพยาบาล  จดมาคือเวลาตรงไหน    ไม่นับที่คลอดกันตามบ้านนอกสมัยก่อนที่ไม่มีนาฬิกา  จะไม่พูดถึง      

พอได้เวลามาแล้ว  พวกเราก็หมุนแผ่นหมุนคำนวณหาลัคนากันยกใหญ่    ตกราศีใด  นวางค์  ตรียางค์อะไร  ก็ทายกันเป็นปืนกล   โดยไม่สนใจว่าตัวเลขมีที่มาจากไหน     หรือถ้าบังเอิญไปอยู่คาบราศี  ไม่รู้ว่าราศีไหน   ก็ไปคาดคั้นคุณแม่  จะเอาเวลาเกิดเป็นนาที  วินาทีให้ได้    โดยที่ไม่ฉุกใจคิดว่าวินาทีที่  โรงพยาบาลเขาจดมา  เป็นวินาทีตอนไหน    นาฬิกาโรงพยาบาลเดินช้า  หรือเดินเร็ว......นี่เรียกว่า ปัญหา “การจับเวลา  และ นาฬิกา” ครับ........รู้เอาไว้ก่อน

           ปัญหาต่อมา   สมมุติ  มีเทวดาท่านมาจับเวลาให้   ตัดสินใจโดยญาณหยั่งรู้ให้  ว่าคุณเกิดมาจริงๆตอนไหน   ไม่ว่าจะเอาหัวออกก่อน  ขาออกก่อน  หรือ  ออกมาเต็มตัว  ปลายนิ้วสะกิดพุงคุณแม่ครั้งสุดท้ายเมื่อเสี้ยววินาทีไหน   ได้เวลาเป็นทศนิยม  32  ตำแหน่ง    เอาไปให้นักโหราศาสตร์คอมพิวเตอร์  คำนวนวางลัคนา  ได้องศา  ลิปดา  ฟิลิปดา  ละเอียดเป็นทศนิยม  27  ตำแหน่ง   รู้ราศี  นวางค์ ตรียางค์  องศา  ฤกษ์  ชัดเจน   สมมุติลัคนา  ราศีเมษ ก็แล้วกัน    แต่พอไปดุดวงแล้ว   เรื่องราวอะไรก็ไม่แม่น    ครูโหรดูๆแล้ว  ไปวางลัคนาให้คุณอยู่ราศีมีน   แต่ทายคุณแม่นเป๊ะเลย    เป็นคุณคุณจะเชื่อฝ่ายไหน   ฝ่ายเทวดา  หรือ  ฝ่าย โหร.......นี่เรียกว่า  ปัญหา “การวางลัคนากำเนิดทางโหราศาสตร์"  ครับ......รู้เอาไว้อีก

          ปัญหาต่อไป    วันดีคืนดี  คุณเติบใหญ่   เรียนโหราศาสตร์มากขึ้นแล้ว    ยกเว้นความรู้เรื่องลัคนา   คุณดูดวงชะตาตัวเอง   วางลัคนาในราศีพฤษภ   แล้วแม่นเป๊ะเลย  ทายเหตุการณ์ถูก   แล้ว คุณจะเชื่อใครดี  ระหว่างเชื่อ   เทวดา  หรือครูโหร หรือเชื่ออาจารย์ คือตัวคุณเอง........นี่เรียกว่า ปัญหา “คุณสมบัติของลัคนา”  ครับ

          ลัคนา  นั้น  คือจุดโผล่ตรงท้องฟ้าทางทิศตะวันออกขณะที่มี  “เหตุการณ์” เกิดขึ้น   เมื่อธรรมชาติหนึ่งมี “การเกิด”    แล้วเราต้องการจะดู “การเกิด” ของดาราจักร  ที่อยู่บนจักรราศี ที่พร้อมกัน     เราก็ดูที่ท้องฟ้าตรงนั้นได้    แต่ตามจริงแล้ว  ขณะมีการเกิดในธรรมชาติ    มีลัคนาธรรมชาติสำคัญๆเกิดขึ้นอย่างมากมาย    ทั้งในจักรวาล  และ ธรณี     

แต่การที่เราเลือก ของ “การเกิดของท้องฟ้า”  ทางทิศตะวันออกมาดู  ก็เพื่อให้สอดคล้องกับ  การพิจารณาทางโหราศาสตร์ต่อไป      การเลือกการเกิดที่พร้อมกัน  ก็เพราะเราต้องการ  Mark ไว้ให้รู้ จุดเริ่มต้นที่จะอ่านเทียบกันระหว่างชีวิตกับธรรมชาติที่เอามาอ่านครับ     

จุดบนท้องฟ้านั้น  จึงเป็น “ตำแหน่งที่ลัคนาอยู่”   ไม่ใช่ ตัวลัคนา   เพราะคุณยังไม่รู้ว่าลัคนาคืออะไร   แล้วหากเหตุการณ์นั้น  เป็นการกำเนิดของทารก   คุณก็จะได้ตำแหน่ง ของลัคนา  “ขณะที่ทารกเกิด”  เท่านั้น   ไม่ใช่ตำแหน่งของลัคนา   “ขณะที่ชีวิตเกิด”

           ชีวิตเกิดมาเมื่อใด   เป็นคำถามที่ตอบยากเย็นยิ่ง    เราก็ทราบว่าชีวิตเริ่มปฏิสนธิ์ในครรภ์แม่  ราว 9  เดือน  แต่ไม่รู้วันเวลานาทีที่แน่นอน    แต่ร่างกายคนก็ต้องอาศัยเวลาเติบใหญ่ในท้องแม่กว่าจะมีอวัยวะต่างๆครบ   เราเริ่มหายใจเอง  ภายในเวลาไม่กี่วินาที  หลังพ้นจากท้องแม่ออกมา   เป็นการเกิดชีวิตตามกฎหมาย  และการรับรู้ของสังคม   เราจึงไม่อาจชี้ชัดได้ว่า  ชีวิตเราเกิดเมื่อใด    (บางท่านใช้วิธีผูกดวงชะตาย้อนหลังไป  9  เดือน   แต่ใช้วิธีนี้ไม่ได้ครับ   แต่ยังอธิบายยาวตรงนี้ไม่ได้)    

ดังนั้น   โหราศาสตร์จึงใช้เหตุการณ์ที่สำคัญที่สุดที่พอจะหาได้ในชีวิตของเรามาแทน  นั่นคือ ลัคนา  “เมื่อทารกกำเนิด”    ดวงชะตาที่เราใช้อยู่จึงเป็นดวงชะตาที่ทารกกำเนิด  ไม่ใช่ดวงชะตาของชีวิต    ซึ่งหาไม่ได้   ดวงชะตานี้เป็นดวงชะตาของเหตุการณ์หนึ่งในชีวิตเท่านั้น    เพียงแต่มีความสำคัญกว่าเหตุการณ์สำคัญอื่นๆของชีวิตอีกมากมาย

          ขอให้รู้หลักพื้นฐาน  ของวิชาโหราศาสตร์ไว้ประการหนึ่งก่อน   

ด้วยเหตุผลทางธาตุ   คือ  ลัคนาดวงชะตาของชีวิตนั้น  เกิดในชั่วขณะเวลาที่ชีวิตเกิด  หรือ ประมาณ 12 นาที  หรือ โลกหมุนหนึ่งนวางค์    

แต่ลัคนาดวงชะตาของเหตุการณ์   จะมีเวลาหน่วงได้ถึง  2  ชั่วโมงเศษ  หรือ หนึ่งองศาของจันทร์จร   โดยประมาณ  ซึ่งจะเป็นระยะทางการหมุนของโลก ราวหนึ่งราศี    ดังนั้น   การกำเนิดของทารก  จึงสามารถวางลัคนาได้ในช่วงกว้างได้ถึง  2  ชั่วโมงเศษ  หรือการหมุนของโลก หนึ่งราศี   เพราะเป็นชนิดของดวงเหตุการณ์    

โหราศาสตร์ทางธาตุของไทย  บีบระยะตำแหน่งลัคนาให้แคบลงได้  เหลือประมาณ ครึ่งราศี   เพราะเหตุผลทางธาตุดาว     

แต่ โหราศาสตร์จีนในยุคก่อนๆลงมาถึงปัจจุบัน    วางลัคนากำเนิดด้วย  “ยาม”  เวลาเกิด   2  ชั่วโมง  ที่เรียกว่า “ซี้”   โดยไม่ต้องจดเวลาชั่วโมงนาที เกิดเลย   แต่โหรจีนทำนายเหตุการณ์จรแม่นยำเหมือนจับวาง  ได้ละเอียด ลงไปถึง ครึ่งชั่วโมงได้     ก็ด้วยความรู้เรื่องธาตุของลัคนานี้

          การกำหนดระยะเวลาที่ลัคนาบังเกิดขึ้นได้  ไม่ได้หมายความว่าลัคนามีขนาดกว้างเท่านั้น    แต่หมายถึงลัคนาอาจบังเกิดได้เมื่อใดในช่วงเวลานั้นเมื่อ  “ธาตุ” ของลัคนา  ประจุสร้างขึ้นมาได้จนเต็ม       

ลัคนานั้นไม่ใช่จุด   ไม่ใช่ระยะ  ไม่มีขนาดที่แน่นอน   และยังแปรขนาดได้   เพราะเป็นนามธรรมทางธาตุชนิดหนึ่ง    ลัคนาในดวงชะตาเกิดจากอัตตาตัวตนและกรรมที่บังเกิดขึ้น    ซึ่งเป็นเหตุแห่งเรือนชะตา (คือ อัตนียา)          

คุณสมบัติของลัคนายังมีอีก  คือ  ลัคนานั้นเคลื่อนได้    ลัคนาเคลื่อนได้เพราะปัจจัยหลายอย่าง   เช่น   เคลื่อนเพราะสุริยาตร์    เพราะโลกหมุน   และสุดท้ายคือเพราะอัตตาเอง    

คุณสมบัตินี้  ก่อให้เกิดวิชาที่เกี่ยวกับวงรอบธรรมชาติขึ้นหลายอย่าง  ที่อาศัยการเคลื่อนที่ของลัคนา   เป็น  ลัคนาจร  หรือ  ปัจจัยจร   หรือ ชันษาจร  แบบต่างๆ   และยังมีปัจจัยอีก   2 – 3   อย่างที่เกี่ยวกับจักรวาล      เฉพาะที่เกี่ยวกับเรา  คือ  การเคลื่อนของลัคนา  ที่ทำให้เกิดเหตุการณ์บางอย่างได้ตามลัคนาจร      ทำให้ผู้ที่ไม่รู้เกิดสงสัยตำแหน่งของลัคนากำเนิด

         ลัคนา  ทางโหราศาสตร์  กับ ดาราศาสตร์จึงไม่เหมือนกัน    เนื่องจากสมัยต่อมามีการใช้ข้อมูลดาราศาสตร์มาทำงาน      ทางโหราศาสตร์หลายระบบ   จึงนำเอาลัคนาดาราศาสตร์มาใช้แทน  “ลัคนาธาตุ” ทางโหราศาสตร์ของเดิม     เพราะระบบโหราศาสตร์ใหม่เหล่านั้น   ล้วนไม่ได้ใช้พื้นฐานทางธาตุ       

จีนเองอนุรักษ์ลัคนาทางธาตุไว้ได้    เพราะตัดเวลาละเอียดทิ้งไปแต่แรกได้แล้ว     

แต่ไทยเราบีบลัคนาให้แคบลง   และพยายามลงลึกรายละเอียดตำแหน่งของลัคนา    ด้วยเหตุผลทางนวางค์  และ ฤกษ์ที่จำเป็นต้องใช้ผูกดวงชะตาสำคัญๆ เช่น  ดวงพิไชยสงคราม   แต่ก็ยังถืออำนาจรับรู้ธาตุดาว ออกไปทั้งสองข้าง  รวมแล้วหนึ่งราศี  เท่ากับของจีน    

จึงมีผู้เข้าใจผิด  เอาลัคนาโหราศาสตร์ระบบอื่นๆ  มาตั้งเป็นลัคนาธาตุของโหราศาสตร์ไทย     ทั้งๆที่แท้ๆแล้ว  ไม่จำเป็นเลย

ไม่มีความคิดเห็น: