วันจันทร์ที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2550

มุมของดาว

เรื่องมุมระหว่างดาวนี้ มีหลักการทฤษฎีที่แตกต่างกันอยู่มาก แต่ระบบจะมีข้อพิจารณาไม่เหมือนกัน ดังนั้น ในที่นี้ ผมจะให้ความเห็นในโหราศาสตร์ไทย ซึ่งเมื่อเข้าใจหลักการแล้ว จึงจะไปปรับใช้ต่อไปก็ได้

.........ขั้นแรกอยากแก้ความเข้าใจเรื่องมุมดาว คือพวกเราส่วนใหญ่มักจะเหมาหลายเรื่องมารวมกัน เพราะตำราหลายเล่มชักจูงให้เข้าใจผิด เวลาอ่านหนังสือต่างระบบก็ยังเอามาปนกันอีก มุมระหว่างดาวในโหราศาสตร์ มีอยู่ 2 ลักษณะ เรียกว่า 2 อนุกรม (หรือ 2 อนุพันธ์ หรือ 2 ชุด)

.........อนุกรมแรกคือชุดของมุม 180 องศา แล้วหารสองไปเรื่อยๆ ก็จะได้มุมเรียงจากน้อยไปมากคือ 22.5 45 67.5 90 112.5 135 157.5 180 และถ้าเรา เพิ่มไปอีกทุก 22.5 องศา ก็จะวนกลับจนครบ 360 องศา ซึ่งโหราศาสตร์บางระบบจะทำอย่างนั้น 

กรณีของโหรไทยจะใช้เพียงมุม 90 180 ซึ่งอ่านออกไปทั้งสองข้าง ซึ่งก็คือที่เรียกว่า มุมจตุโกณ 

ส่วนอนุกรมชุดที่สอง คือมุม 180 หารสาม ก็จะได้ 60 120 180 เมื่อวัดออกสองข้าง ก็จะได้มุม โยค และตรีโกณ ซึ่งแท้จริงแล้วเป็นการกำหนดจุดวัด และเลือกมาใช้เท่านั้น ในโหราศาสตร์ต่างระบบจะมีการเลือกองศาที่ละเอียดลงไปเพียงใด แล้วแต่หลักการของระบบนั้น

.........อนุกรมของมุมดาวทั้งสองแบบ มีผลไม่เหมือนกัน อย่างที่คุณยกตัวอย่างมาว่า หากใช้อาทิตย์กำเนิดเป็นจุดเจ้าชะตา แล้ววัดออกไปหาดาวอื่น 

อนุกรมในชุดจตุโกณนั้น จะ “มีผลร่วม” เป็นอิทธิพลหลัก แต่อนุกรมในชุดตรีโกณ จะ “มีผลช่วย” เป็นอิทธิพลหลัก

........ยกตัวอย่าง มีวงดนตรีวงหนึ่งเล่นเพลงอย่างไพเราะอยู่บนเวที แซ็กโซโฟน กำลังโซโล่เพลงฮิตเป็นพระเอกอยู่ เครื่องดนตรีอย่างอื่นจะบรรเลง เป็นเสียงองคประกอบของเพลง เรียกว่า “มีผลร่วม” ในเพลง ให้เพลงนั้นสมบูรณ์ แต่เครื่องเสียงเครื่องอุปกรณ์ขยายเสียงต่างๆ “มีผลช่วย” ให้คุณภาพ และความดังของเสียงดีขึ้น

........มุมดาวทั้งสองแบบก็เช่นกัน ในชุดมุมจตุโกณ ดาวที่เป็นสี่ เจ็ด สิบ แก่จุดเจ้าชะตา หรือดาวใด จะมีผลเหมือนเข้าร่วมกับจุดเจ้าชะตานั้น แต่อิทธิพลที่คุณเรียกว่า “ความแรง” นั้น จะแรงสุดในมุม กุม ( 0 องศา) และ มุมเล็ง ( 180 องศา )อ่อนลง ส่วนมุม จตุโกณ ( 90 270 องศา) นั้นจะอ่อนลงกว่า มีเพียงสี่ตำแหน่งที่นับว่าแรง แต่ หากคิดตลอดอนุกรม องศาอื่นๆที่อยู่ระหว่างสี่ตำแหน่งนี้ จะอ่อนลงกว่ามาก นี่คือ ความแรงของการ “เข้าร่วม”กับจุดเจ้าชะตา ไม่ได้เกี่ยวกับกำลังของดาว

.........ส่วนชุดมุมตรีโกณ การ “เข้าช่วย” จุดเจ้าชะตานั้น มุมโยค (60 องศา) กำลังอ่อนกว่า มุมตรีโกณ ( 120 องศา) เป็นไปทั้งสองด้าน.........ดังนั้น เราจึงเปรียบเทียบความแรงระหว่างอนุกรมทั้งสองไม่ได้ เพราะเป็นคนละเรื่อง

........สำหรับคำถามที่คุณถามว่าจะมีหน่วยวัดความแรงของมุมดาวไหม ตอบว่าไม่มี และมีไม่ได้ เพราะจริงๆความแรงของดาวในมุมใด ขึ้นอยู่กับชนิดและตำแหน่งของดาว

เช่น ดาวที่อ่อนกำลัง แม้อยู่ในมุมที่แรงสุด ก็อาจจะอ่อนกว่าดาวที่มีกำลังแรง แต่อยู่ในมุมที่แรงน้อยสุด 

ทุกดาวยังมีข้อปลีกย่อยแตกต่างกันออกไป รวมทั้งปฏิกริยากับจุดรับ เช่น จุดเจ้าชะตาด้วย เช่น หากดาวที่จตุโกณ ส่งอิทธิพลเข้าร่วมกับจุดเจ้าชะตา แล้วเป็นคู่มิตร ก็ย่อมมีอิทธิพลแรงกว่า เป็นคู่ศัตรู

........สำหรับ แรงเอื้อม หรือ ความคลาดเคลื่อนองศา ก็เช่นกัน มีรายละเอียดอีกมาก โหราศาสตร์บางระบบให้ความเคลื่อน จาก 3 องศา ไปถึง 5 องศา 

แต่ โหราศาสตร์ไทยมีแรงเอื้อมมากกว่า เพราะ ถือระบบธาตุ การสัมผัสกัน ก็ใช้เพียงขอบนอกดาวก็ใช้ได้ ไม่ต้องวัดที่จะจุดกลางดาว 

นอกจากนั้นยังพิจารณาธาตุดาว และ ธาตุราศีประกอบด้วย ดังนั้น โหรไทยอาจมีองศาดาวทับกัน ชนิดที่ดาวห่างกันได้ถึง 7 – 10 องศาทีเดียว ความคลาดองศาไม่ว่าในระบบใด ถ้าอยู่ในระยะที่ยอมให้เคลื่อน ต้องถือว่าเท่ากัน เพราะอิทธิพลดาวไม่ได้ส่งเป็นเส้นตรงแบบแสง แต่ส่งไปแบบดาวกระจาย คลาดเล็กน้อยก็โดนแล้วเหมือนกัน

ไม่มีความคิดเห็น: